มาฟังเพลงในระบบ Dolby ATMOS กันเถอะ

ช่วงสองปีสามปีที่ผ่านมา การฟังเพลงมัลติแชลแนลได้พัฒนาให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น สมัยก่อนเราฟังเพลงมัลติแชลแนลคงต้องนึกถึง SACD ที่บันทึกเสียง 5.1  ch (SACD นั้นมีทั้งแบบ 2ch และ 5.1 ch) หรือต่อมา ก็จะเป็น DVD-audio และเป็น Blu-ray audio ซึ่งต้องพึ่งพาเครื่องเล่นแผ่นในการเล่น แต่ในส่วนแอมปลิไฟล์ที่ใช้ฟังเพลงนั้น ก็ใช้ ปรีเซอร์ราวน์ หรือจะเป็น AVR ที่เราใช้ดูหนังฟังเพลงอยู่แล้ว เอามาใช้งานได้เลย และ เราก็ยังฟังเพลงจากแผ่นกันอยู่

ภาพประกอบจากเว็บไซท์ SA-CD.net

ยุค 2010 ได้มีการพัฒนาวงการฟังเพลงผ่านอินเตอร์เน็ท หรือเรามักเรียกติดปากว่า บริการสตรีมมิ่ง ซึ่งการมาของเจ้าตลาดขายเพลงฟอร์แมทดิจิตัลอย่าง Apple ที่ขายเพลงดิจิตัลผ่านโปรแกรม iTunes มานับสิบๆปีมาแล้วบน iPod ก็ได้เปิดบริการสตรีมมิ่งของตัวเองในนาม Apple Music ในปี 2015 หลังจากเปิดตัวมานาน ก็พาตัวเองได้เข้ามาในตลาดเพลงความละเอียดสูงที่เราเรียกว่า Hi-res music ในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา ซึ่งการฟังเพลงไฮเรสของ Apple music นั้น ก็ยังจำกัดการฟังแค่อุปกรณ์ของทางแอปเปิ้ลเอง นัยว่าสร้าง อีโคซิสเต็มท์ของตัวเอง ทั้ง iPhone, iPad , เครื่อง Mac ของเขาเอง 

จนกระทั้งวงการเพลงนำพา Dolby Atmos เข้ามาสู่วงการเพลงสตรีมมิ่ง นำทัพโดยบริการสตรีมมิ่งของ Tidal ขวัญใจชาวออดิไฟล์ ไม่รอช้าแอปปเปิ้ลที่มักนำสิ่งพิเศษใส่ลงไปบริการของตัวเองเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าตัวเองด้วย ก็ได้นำ Dolby ATMOS มาใส่ในบริการของตัวเอง พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ค่ายเพลงต่างๆ ในการอัปเดทไลบรารี่ให้มีความน่าสนใจ และแปลกใหม่ เอาใจกลุ่มฟังเพลงวัยรุ่นที่ชอบลองเทคโนโลยี่ใหม่ๆ กัน และไม่พ้นวงการเพลงไทยด้วย จะเห็นว่ามีการมิกซ์เสียงดอลบี้แอทมอสมาหลากหลายอัลบั้ม สร้างประสพการณ์การฟังเพลงรอบทิศทางที่ยอดเยี่ยม กว่าเดิม

รูปภาพประกอกจากเว็บไซท์ Dolby.com

เกริ่นมานาน มาเข้าเรื่องวิธีการฟังเพลงแบบอิมเมอร์ซีฟซาวน์กันดีกว่า อันดับแรกคุณต้องเป็นสมาชิกของ Apple music เสียก่อน อันต่อมาคุณต้องมีกล่อง AppleTV เสียก่อนใครยังไม่มีแนะนำ กล่อง AppleTV 4 K รุ่นล่าสุดไปเลยครับ ชุดท้ายชุดโอมเธียเตอร์ที่เราใช้ดูหนังกันนี่แหล่ะครับ แต่มีข้อแม้ว่าระบบของท่านต้องรองรับการถอดรหัส Dolby Atmos แล้ว ครบสามอย่างก็ลุยกันได้เลย ใครที่ใช้กล่อง AppleTV ดูหนังอยู่แล้วสบายเลยครับ แค่สมัคร Apple Music เพิ่ม ก็ใช้งานได้เลย อันดับแรกเข้าไปดูที่เมนู Setting ของกล่อง AppleTV ว่าในส่วนเมนู Audio Format นั้นได้ On ตัว Dolby Atmos ไว้แล้วหรือยัง ถ้ายัง Off อยู่ ก็แค่ ON เท่านั้นเองครับ

จากนั้นก็ทำการ Browse เพลงที่ต้องการฟังได้เลย ในส่วนเพลงที่เป็น Dolby Atmos นั้น จะอยู่ในส่วน Spatial Audio มีทั้งเพลงสากล และเพลงไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพลงสากลอยู่แล้ว ตอนนี้ อัลบั้มฮอตฮิต ในอดีต ถูกรีมาสเตอร์มิกซ์มาเยอะมากครับ ลองดูตามรูปที่ผมแนบมา ทั้ง Pink Floyd อย่างอัลบั้มขึ้นหิ้ง The Dark Side of The Moon 50th Anniversary หรือศิลปินท่านอื่น Frank Sinatra , Mile Davis , Billy Joel ฯลฯ ยิ่งศิลปินยุคใหม่ ไม่ต้องห่วงมีให้ฟังแน่ๆ อย่าง เทเลอร์ สวิฟท์ 

ส่วนเพลงไทยก็มาครบๆแต่ส่วนมากจะเป็นเพลงฮิตในยุคปัจจุบันนี้ ซึ่งผมเอาตรงๆ ไม่ค่อยรู้จักศิลปินเขาสักเท่าไร แต่เท่าไปค้นหาดูเพลงยุคเก่า 90 ค่ายแกรมมี่ก็ยังพอมีให้ฟังบ้าง ก็ได้ฟังแบบ Dolby Atmos ได้ประสพการณ์ฟังเพลงที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้การฟังเพลงสองแชลแนลเลย ถามว่าการฟังเพลงเหมาะกับใคร

      

อันดับแรกคือ ท่านที่มีชุดโอมเธียเตอร์อยู่แล้ว จะเป็นชุดซาวน์บาร์ที่รองรับ Dolby Atmos ก็ใช้งานได้เหมือนกันครับ แค่หากล่อง AppleTV มาต่อเท่านั้น ราคาประมาณ 6,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่ท่านเลือกใช้งาน มีทั้งแบบไวไฟ และแบบมีช่องต่อสายอีเธอร์เน็ต แค่นี่ก็พร้อมเปิดประสพการณ์การฟังเพลงอีกรูปแบบ

อันดับสอง คือ ท่านที่กำลังหาจัดชุดฟังเพลงเป็นห้องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ แนะนำเลยครับ จัดเป็นชุดปรีเซอร์ราวน์ หรือจะเป็น AVR ก็ได้ รับรองว่าห้องนั้นได้ใช้งานได้หลากหลายนอกจากใช้ดูหนังแล้ว ยังจะใช้ตอนรับแขกไปใครมา หรือปาร์ตี้แฮงค์เอ้าท์สังสรรค์กับเพื่อนๆ ได้โชว์ชุดฟังเพลง Dolby Atmos ที่มีบรรยกาศรายล้อมสร้างประสพการณืฟังเพลงไปอีกระดับเลยที่เดียวครับ หรือ จะเป็นร้านค้าเล็กๆ ที่เปิดเพลงให้คนในร้านนั่งฟังก็ยังจัดชุดทำได้เลย เลือกลำโพงที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย รองรับกับขนาดห้องที่กว้างขึ้น แต่ท่านต้องติดต่อเรื่องลิขสิทธิ์ให้ถูกต้องก่อนนะครับ รับรองเพิ่มมูลค่าให้กับร้านค้ากิจการของท่านที่ ระบบเสียงดีเยี่ยมไม่แพ้ฟังดนตรีแสดงสดเลย

นอกจาก Apple Music แล้วก็ยังมีแอป Tidal ด้วยนะครับ ที่สามารถฟังเสียงในระบบ Dolby ATMOS ได้เหมือนกัน ใครเป็นสมาชิก Tidal อยู่แล้วก็แค่โหลดแอป Tidal ลงในกล่อง AppleTV ก็ใช้งานได้เช่นกันครับ แต่ๆๆ จากที่ผมทดลองฟังดู เกนสัญญาณที่ได้สำหรับผมถือว่าสัญญาณนั้นเบาถึงเบามาก ไม่ทราบว่าเป็นด้วนเหตุผลกลใด ถึงได้แตกต่างกับ สัญญาณเสียงที่ได้จากของทาง Apple Music ขนาดนั้น ยังไงก็ลองเลือกทดลองดูฟังกันได้ครับ ชอบแบบไหนก็เลือกเอาที่เราสบายใจได้เลยครับ

ส่วนใครยังไม่มีชุดโฮมเธียเตอร์ ลองแวะเวียนไปโคไน้ซ์สาขาใก้ลบ้าน หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซท์โคไน้ซ์ ก็มีบริการจัดชุดได้ทุกแบรนด์ทั้ง PSB ,NHT ,AE ,DALI ตามใจชอบได้เลย

ส่วนตอนนี้มีลำโพงชุดโฮมเธียเตอร์ใหม่ล่าสุด ของแบรนด์ DALI เข้ามา ผมได้ลองฟังแล้วประทับใจมาก กับลำโพงสัญชาติเดนมาร์กแบรนด์นี้ ที่นอกจากฟังเพลงได้ทุกแนวแล้ว ยังให้เสียงสมจริงเหมือนย่อโรงหนังมาไว้ในบ้านเลยทีเดียว ลองเข้าไปดูในหมวดสินค้าโพรโมชั่นได้เลยครับ.

.